แก้ปัญหาอย่างไรดี (จนปัญญาแล้ว)

เราไม่ชอบพ่อตัวเอง ด้วย



เหตุปูมหลังในวัยเด็ก ปัญหาไม่เคยลดลงจนกระทั่งปีนี้เรา30แล้ว
เราอยู่บ้านมาเกือบปีหรือ2ปีไม่รู้ (ไม่นับวันไม่ดูปฎิทินเพราะเครียด)

พ่อเราบังคับให้เราออกจากงานกับมาขายของที่บ้าน (เงียบแบบป่าช้า) เราไม่มีธุรกิจอย่างอื่นค่ะ (สมองเราไม่ทำงานตอนเราอยู่บ้าน มันตายไปแล้ว)
เราไม่ได้รายได้อะไร และได้แต่นั่งขายของไปวันๆๆ ได้เงินวันละ50บาทค่าข้าว (ไปเที่ยวได้แบบไปเช้าเย็นกลับ)เดือนละครั้ง มากว่านั้นพ่อแม่เราจะสติแตกใส่เรา

เราเป็นโรคไบโพลาร์ที่ผ่านการรักษามา9ปี จนรู้ตื้นลึกหนาบางของการกินยาและไม่กินยา (ปีนี้เราตัดสินใจหยุดยาค่ะ เพราะมันไร้ค่า) พ่อเราเป็นไบโพลาร์ที่ไม่รักษา ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วยไม่ไปโรงบาลไม่ว่าจะหนักร้ายแรงแค่ไหน (เค้าเกลียดยา)
พ่อเราบังคับให้เรามาขายของและบอกให้เราบริหารบ้านใหม่ อนุญาติให้เราคิดเองได้ทุกอย่าง(นั่นสิ่งที่เค้าพูด แต่ความเป็นจริงมันบัดซบมาก)

(เกริ่นก่อนว่าแม่เราป่วย แก่ ขาเจ็บเป็นรูมาตอยเป็นโรคหัวใจ เคยทำบายพาสไม่สำเร็จ  ส่วนเราได้ข้อด้อยในยีนต์พ่อแม่มาทุกอย่างเลยค่ะ เรามีกระดูกขาผิดรูปมานิดหน่อยเหมือนรูมาตอย เวลาเดินเราเจ็บตลอดเวลา เรามีปัญหาหัวใจเต้นผิดปกติ ใจสั่นง่าย มือสั่นเป็นกิจวัต เวลาอากาศเย็นๆเราจะปวดกระดูกค่ะ ขาบ้างแขนบ้าง มือบ้าง เป็นลมชักด้วย เป็นไบโพลาร์ขั้วซึมเศร้าหนักเลย และเป็นโรคนอนไม่หลับเรื้อรังแบบมีสาเหตุมาจากเราเกลียดพ่อ

(ทุกที่ ที่พ่ออยู่เราจะรู้สึกกระวนกระวายคล้ายคนวิตกจริต หงุดหงิดงุ่นง่าน นอนไม่หลับ เรากินข้าวไม่ได้ค่ะ ทุกวันนี้มื้อเดียวก็จำกลืน ฝืนก็อ้วก เราสูง162 หนัก47ลดลงมา3โล)

- พ่อเรามีการจัดระบบการจัดการในบ้านพิศดารมาก ขายของพวกของหนักๆๆๆๆ แขวงไว้เหนือหัวในตำแหน่งที่เรากับแม่ไม่มีปัญญาเอาลง (พ่อเราตัวใหญ่ สูง แกเอาลงได้คนเดียว) ห้ามเปลี่ยนที่ ห้ามแย้ง เค้าจัดอะไรไว้ตรงไหนต้องอยู่ตรงนั้น ขนาดเราให้ลูกค้าผู้ชายมาช่วยยกให้ ยังหืดขึ้นคอ แล้วต้องยกขึ้นลงเอง

-ขวดเหล้า ขวดน้ำ ขวดเบียร์ จัดไว้กลางบ้านและข้างตัวบ้าน(บ้านเราลึกค่ะ) เวลายกออกมาแช่แต่ละครั้ง ต้องยกเป็นลัง ยกมาทีละขวดโดนด่า

-นมกล่องเล็กๆ วางไว้ข้างตู้เย็น แช่ทีละ2กล่องทุกยี่ห้อ ห้ามแช่มากกว่านั้น ต่อให้ตู้ว่างก็ห้ามเอาออกมาแช่

-น้ำอัดลมแช่เฉพาะที่เค้าเตรียมให้ ถ้าเอาอย่างอื่นออกมาพ่อเทกระจาดค่ะ ทุ่มลงพื้น

-มีสินค้ามาใหม่ ห้ามเอาขึ้นเรียง(ต้องเอาไปซ่อนลึกๆ แล้วบ่นว่าขายไม่ได้)

-ห้ามเอาสินค้าตัวใหม่ที่อยากลองขายขึ้นตู้โชว์ (อย่าให้เค้าเห็นไม่งั้นเทค่ะ) ด่ากราด

** จิปาถะในบ้านสยองคูณ100  

ห้ามเอาของกินแช่ตู้เย็นเกิน15นาที (พ่อปาทิ้ง) แต่ของกินเค้าคนเดียวเต็มตู้ มีตู้เย็นขายของ2ตู้(ใช้รวมกันกับของกินในบ้าน) 60% ของขาย40% ของกินพ่อ ของเรากับแม่ปาทิ้งหมด (ไม่ปาอย่างเดียวด้วยค่ะ อาละวาทก่อน เตะขาเตะแขน ด่าหูชา)

ราวตากผ้าที่บ้านเยอะมากค่ะ ไมแขวนเสื้อมีเกิน100อันไปเยอะเเล้ว ไม่เคยซื้อค่ะ(พ่อเราเป็นนักประดิษฐ์) แต่ห้ามใช้ พ่อบอกว่ามันเกะกะ มันรก (รกตอนที่มีเสื้อผ้ามาแขวน มีของมาตาก

เก้าอี้ประดิษฐ์ในบ้านมีเกิน10ตัว กองกันอยู่หลังบ้าน  แต่ที่เราช้ำทรวงที่สุดคงหนีไม่พ้นปุ๋งกี๋ค่ะ พ่อเราทำด้วยไม้อะไรไม่รู้หนักมาก
(ปุ้งกี๋บ้านใครหนัก4โลวะครับ) แม่เรามือเจ็บขาเจ็บ ต้องยกปุ้งกี๋เดินไปกวาดบ้าน (เราผอมค่ะ 47โลนี่กระดูกล้วนๆ) เรายกปุ้งกี๋มือเดียวไม่ได้ค่ะ ต้องใช้ไม้กวาดช่วยงัดเวลาเอาขยะไปเท (แล้วใครจะอยากกวาดบ้านวะครับ) ห้ามเปลี่ยนด้วย พ่อภูมิใจกับมันมาก

พ่อเราอยากให้เรามาบริหารบ้าน แต่พ่อไม่ยอมให้เปลี่ยนอะไรเลยค่ะ เราเคยทะเลาะกับพ่อเรื่องป้ายติดสินค้า เราอยากทำแบบ7-11 ทำรางพลาสติกสอดกระดาษ(เราทำเองได้เราเด็กศิลป์ เราทำงานกับพวกออแกรไนท์เซ็ทฉาก เวที ส่วนใหญ่ประกอบกันเองค่ะ)

พ่อเราบอกว่า ความคิดเรามันโง่ดักดานไม่มีใครทำหรอก เค้าจะทำแท่นเหล็กค่ะ แล้วเอาสติ๊กเกอร์แปะ
(เวลาราคาเปลี่ยนทำไง รื้อเหล็กออกมาค่ะ ลอกสติ๊กเกอร์ เขียนราคาใหม่) พ่อเราชอบงานไม้งานเหล็ก ทกอย่างต้องใช้เครื่องเชื่อม ต้องยุ่งยากต้องเป็นงานที่เค้าทำได้คนเดียว (เครื่องเชื่อม อุปกรณ์ที่บ้านมีครบ แต่พ่อไม่ให้เราใช้ค่ะ (เค้าว่าเราโง่)

พ่อเราชอบปลูกต้นไม้ แต่ไม่เคยศึกษาวิธีปลูก ปลูกมามีแต่ใบไม่ออกดอก แล้วก็โวยวาย นั่งเครียด กินเหล้า พาล อาละวาท เราทนไม่ไหวค่ะ(ก็ไปหาวิธีมาทำให้ออกดอกออกลูก (แต่เราไม่มีหัวการเกษตร เราไม่เข้าใจ) เราทำให้ออกดอกได้ ติดลุกได้ค่ะ กลับทุกอย่างที่พ่อปลูก (แต่เหมือนฟลุ๊คอ่ะ อ่านมาทำตาม มั่วบ้างอะไรบ้าง) พอพ่อเห็นว่ามันติดดอกก็เริ่มมาถามเราว่าต้องทำยังไง ดอกกี่วันบาน กี่วันติดลูก ถ้าบอก3วัน แล้วผลไม่เหมือนโดนด่า

เราก็พยายามทำเท่าที่ทำได้ เราอธิบายพ่อวันละ3รอบ วันรุ่งขึ้นมาภามใหม่ (ถามแปปเดียววก็วนมาถามอีก) ปลุกเสาวรสมา6เดือนแล้วพ่อเรายังแยกดอกบานกับดอกตูมไม่ได้เลยค่ะ (เครียด) พอเราอธิบายว่าต้องทำแบบนี้นะ ทำแล้วติดลูกพ่อเราก็เบ้หน้า เดินหายไป สักพักเดินออกมาบอกว่าทำด้วยวิธีเค้าได้ไหม (เราก็อธิบายว่าไม่ได้) เค้าก็เบะใส่  สักพักเดินออกมาอีก(คิดวิธีใหม่) เราก็อธิบายซ้ำ (ทีนี้พ่อเราโกรธค่ะ ด่าเราเป็นชุดเลย) อ่าว!!


แม่บอกว่าแม่เป็นโรคหัวใจ เวลาพ่อโมโห(พ่อเราชอบตวาด ด่ากราด สรรหาสารพัดคำด่าเจ็บๆ เจ็บจนร้องไห้) แม่เราบอกว่า แม่รู้สึกเหมือนหัวใจจะวายเลย
ส่วนเราเหรอค่ะ(ประสาทแด๊กค่ะ เดินวนอยู่หน้าตู้เย็น กินน้ำหมดขวด เปิดขวดใหม่มากินเก็บน้ำ เปิดตู้เย็น เปิดวนไปค่ะ มือสั่น ใจสั่น ปากสั่น (หัวใจจะวายเช่นกัน)


ทีนี้เรื่องของเรื่องคือ เรากลัวพ่อเราค่ะ เพิ่งสังเกตุวันนี้กับเมื่อวาน แม่เราไปโรงบาลเพราะขาเจ็บ ไปนอนโรงบาล เราไปเฝ้า เราอยู่กับแม่ เราก็เชยๆนะคะ อยู่กับพี่ๆนี่ตลกเลยค่ะ แต่พอพ่อเราเดินเข้ามาเท่านั้นแหละ (เรานี่แบบใจสั่น แพนิคค่ะ กระวนกระวาน สับสน คิดอะไรไม่ออก)เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลย

ป้าเราให้เราลงมาช่วยแม่เต็มเวลา (ปกติเรามีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับค่ะเราเป็นเฉพาะตอนอยู่บ้าน ตั้งแต่เราย้ายกลับมาอยู่บ้าน ต่อให้กินยานอนหลับโอเวอร์โดส หรือกินตามปกติก้ไม่หลับค่ะ กว่าจะหลับก็เช้าๆ7โมงเช้า หลับไม่สนิทเพราะฝัน ตื่นมาจำได้อีก(ซวยแท้)เราจะตื่น11โมง ทำงานช่วงเที่ยงถึง5โมงเย็น(เป็นกะที่พ่อเรานอนค่ะ) แม่เรารู้ค่ะว่าเรากลัวพ่อ (เราไม่สามารถทำงานตอนพ่อเราชะเวิ้บชะวาปผ่านไปมาได้ เพราะอัตราการโดนด่าสูงปรี๊ด)

เราโดยปกติตอนทำงานนอกบ้าน เราเข้างาน9โมงเช้าค่ะ เลิกงาน2ทุ่ม ปกติเรามีกุญแจที่ทำงาน (เพราะเจ้านายรู้ว่าเราเป็นพวกขี้เหงา ไบโพลาร์ซึมเศร้า นอนไม่ค่อยหลับ เราจะเข้าไปทำความสะอาดที่ทำงานตอน6โมงเช้า นั่งเล่นกับหมาแมว เลิกงานเจ้านายจะไล่กลับค่ะ (เราติดคนไม่อยากกลับหอเราไม่ชอบอยู่คนเดียว เราเลิกงานถ้าไม่มีใครอยู่คุยด้วย เราจะเข้านอนเลยค่ะ หลับสนิทยัน6โมงเช้า งานเราไม่เหนื่อยค่ะ เรานั่งหลับที่ทำงานทุกวัน เจ้านายอนุญาติ ขอเเค่ทำงานได้เมื่อมีงานก็พอแล้ว เพราะถ้าเราง่วงโอกาสที่จะทำงานพลาดมีสูงค่ะ แล้วเจ้านายจะเจ็บตัว ดีไม่ดีเราจะทำให้ตัวเองเจ็บด้วย) เราทำแบบนี้มา1ปีกว่าก่อนกลับมาอยู่บ้าน

หลังกลับมาอยู่บ้าน เราไม่ได้สัมผัสคำว่านอนหลับอย่างเป็นสุขอรกเลย เราง่วงให้ตายก็ไม่หลับ กลางวันก็ไม่หลับ กลางคืนก้ไม่หลับ ล้าจนไม่คิดว่าผู้หญิงอายุ30ที่เคยยกหมาหนัก30โลเดินขึ้นลงบันได จะมาป่วยจนถึงขั้น แค่ยกจานข้าวมือยังสั่น(บ้าไปแล้ว)

ตั้งแต่วันจันทรนี้เราต้องลงไปช่วยแม่เต็มเวลา เราต้องเจอพ่อเต็มเวลา เราต้องบ้าแน่เลย บ้าแน่ๆค่ะ (เราไม่กินยาแล้ว เพราะต่อให้กินยามากแค่ไหน สภาพแวดล้อมบัดซบ คือมันไม่ช่วยเลยค่ะ) แถมต้องมาปวดหัวกับผลข้างเคียงยาอีก

เราเกลียดป้าเราที่พูดว่าเพราะเราไม่เคยทำงานหนักเราเลยนอนไม่หลับค่ะ (เราตอนปกติทำงานน้อยก็หลับเป้นบ้าเป็นหลังนะคะ นั่งอยู่ที่ทำงานขนาดเจ้านายเราเปิดลำโพงเสียงดังสุด ดีดกีตาร์ร้องเพลงไปด้วย เรานั่งห่างเค้า3เมตรเรายังหลับเลย (5นาทีก็หลับได้) เสียงแมวร้องเสียงหมาเห่า ผ่านโสตประสาทเราไปเหมือนเสียงบรรยากาศ

เราชอบงานเราค่ะ เราชอบเคสฉุกเฉินแบบโดนรถชนมาใกล้ตาย เราจะอะดีนาลีนหลั่น สมองคิดว่องไว ขยับตัวเร็ว (เตรียมทุกอย่างได้ตั้งแต่เห็นสภาพโดยเจ้านายไม่ต้องออกปากพูด)

เราอยู่บ้านนั่งนิ่งเป็นปลาตาย ขยับก็เหนื่อย หายใจยังรู้สึกเหมือนปอดจะฉีกเลยค่ะ นั่งเฉยๆก็เหนื่อยจะตายแล้ว

เราทำงานกับสัตว์ค่ะ เราได้เรื่องการปฐมพยายามบาลสัตว์เกือบทุกอย่าง เจ้านายเราเก่งค่ะ (ไม่ได้สอน แต่ครูพักลักจำมา)

พ่อเราโดนมีดบาด เชื่อป่ะ (บาดนิดเดียวเองนะคะ) พ่อเราอาละวาทเรียกเรามาทำแผล ด่าเราไม่หยุดเลยค่ะ
เราให้ไปล้างน้ำเปล่า (พ่อเรากลัวเลือดกลัวยาค่ะ กลัวว่าจะทำให้เค้าเจ็บมากขึ้นและตายได้) น้ำเกลือมันเหลือนิดเดียวไม่พอล้าง พ่อเราไม่ยอมค่ะ จะเอาแอลกฮอล์ราดแผล ไม่กลัวแอลกฮอล์แต่กลัวน้ำเปล่า)

พ่อไม่ยอมให้ล้างแผลให้ค่ะ(แถมเหน็บอีกว่า คนโง่แบบเราอย่าเอาหมอมาอ้างว่าเคยทำงานกับหมอเค้าไม่เชื่อเราหรอก) แล้วพอจะทาเบตาดีนนะก็ด่าๆๆๆๆๆ สรรหาคำเจ็บๆมาด่า ตะคอก เตะข้าวของใส่เราอีก พอทำแผลเสร็จนะ(มีด่าซ้ำด้วยค่ะ บอกว่า ถ้าไม่อยากทำให้คราวหน้าไม่ต้องเสนอหน้ามานะ เห็นแล้วเกะกะลูกตา)  

เราแบบได้ข่าวว่านั่งอยู่เชยๆ โดนเรียกมา แล้วด่าซ้ำ นี่อะไร  

แล้วเราเกลียดมากที่เค้าสบประมาทเราแบบนั้น เราทำงานจิตอาสาช่วยเหลือหมาแมวจรจัดฟรี เคยหยุดงาน(เพื่อศึกษาวิธีการเข้าหาสัตว์จร ก็จับสัตวจร) เจ้านายอนุญาติเพราะถือว่าเป็นการพัฒนาศักยภาพตัวเอง กับสัตว์จรตัวเหม็น น้ำเหลืองเต็มตัวเรายังไม่รังเกียจเลย แล้วจะมาด่าเราเรื่องเราไม่อยากทำให้เพราะโง่ไม่มีความรู้ สำหรับเรามันแย่มากค่ะ

มีเรื่องมากมายที่เกิดขึ้นในบ้านตลอดชีวิตเรากับพ่อเรา เค้าทำให้เราเป็นโรคกลัวผู้ใหญ่ เรามักมีปัญหาแพนิคเวลาโดนคนตะคอกใส่ เค้าเคยตบเรา บังคับเราทุกอย่าง เคยเผาของๆเรา(เราชอบวาดวูป เค้าเผาค่ะ) มีทีวีก้ทุ่มทีวี มีเซาว์เบ้าทก็ทุ่มซาวว์เบ้า แถมชอบเรียกเราไปคุยในห้องมืดด้วย  ห้องนอนปิดไฟเปิดแอร์ มีแก้วเหล้า กับขวดเบียร์ แล้วก็เริ่มด่าเราต่างๆนาๆ ถามว่าชีวิตเราเกิดมาทำไม  

เค้าไม่อนุญาติให้เราคุยกับเพื่อนบ้านค่ะ เราเคยคุยกับเด็กประถม พ่อเราด่าเรายับเยินเลย บอกว่าชีวิตตัวเองเน่า ล้มเหลวไม่เป็นท่าเป็นบ้าแล้วยังมีหน้าประจานความบ้าของตัวเอง

ตั้งแต่พ่อเรารู้ว่าเราป่วยเป็นซึมเศร้าตอนปี4 (แต่เราป่วยตั้งแต่อายุ11) พ่อรู้เพราะจิตแพทย์มหาลัยขอพบครอบครัว (เราเรียนไม่เก่งเป็นซึมเศร้าด้วย แต่ต้องได้เกรด3ทุกเทอม(ยามีเท่าไหร่อัดไปค่ะ ยานอนหลับหมาให้กินมากสุด2เม็ด เรากิน4เม็ดไม่หลับ ไหนจะยาต้ายเศร้า วันนึงกืนเป็น10เม้ด ไม่งั้นพ่อเราจะเอาเราออก เราเรียนเกรด3ทุกเทอม เข้าเรียนครบ ส่งงานครบ (ไปแบบศพๆนี่แหละค่ะ) พอรู้ว่าเราป่วย เค้าบอกว่าเราบ้า จะให้คนบ้าไปเรียนประจานครอบครัวไม่ได้ จะเอาเราออก (เราทำทีสิตค่ะอีก2เดือนจบ)เราจบมาตามเกณฑ์ ไปทำงาน(เค้าก็ด่าค่ะ ด่าทุกวัน)

สุดท้ายบังคับให้ลาออก พอออกมา เค้าไม่อนุญาติให้เราคุยกับเพื่อนบ้าน ไม่ให้ไปทำงานนอกบ้าน เราจะไปสมัครงานแถวบ้าน แม่เราบอกว่าจะให้ครอบครัวเอาปีบคลุมหัวเหรอ (โอ้ว!!) เราโกรธมากค่ะโอเวอร์โดสยาไปไม่ตาย(แต่เฉียดๆรู้สึกแบบนั้นจริงๆ)เช้ามาโดนเรียกไปขายของ (เลิกงานพาตัวเองไปหาหมอ)

จนวันนึงรู้สึกดีขึ้น ติดต่อสัมภารณ์งานเองโดยไม่บอกที่บ้าน เจ้านายเราเคยอ่านบล็อกเรา เค้ารับเราเข้ามาทำงานค่ะแต่อยากให้ไปคุยกับพ่อก่อน (พ่อเราไม่ยอม ด่าเราเละเทะเลย)

    เรางงค่ะ พ่อเราบอกว่า เมื่อไหร่เราจะเข็ด เราล้มมากี่รอบแล้ว ชีวิตพังมาเท่าไหร่แลเว ทำไมต้องลุกขึ้นมาให้เจ็บซ้ำอีกอยู่ที่นี่กับครอบครัวไม่มีใครด่าว่าเราด้(ทั้งชีวิตก็ไม่เคยโดนคนที่ทำงานด่าค่ะ เป็นเด็กดี ประพฤติดี ไม่กินเหล้า ไม่สังคม ขยันด้วย) ทำไมเราต้องกระยิ้มกระสนไปเป็นเบ๊ชาวข้านให้เค้าจิกหัวใช้

อยู่บ้านวนไปค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่